ข้อ1.การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์คืออะไร
มีความจำเป็นหรือไม่อย่างไรที่จะต้องพัฒนารูปแบบการสอนดังกล่าวนี้ ความจำเป็นในการพัฒนา1.เนื่องจากระบบการศึกษาไทยมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนารูปแบบการสอนให้สอนคล้องกับการศึกษาในปัจจุบัน2.เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง
ทำให้เกิดทักษะในการคิดวิเคราะห์ และคิดแก้ปัญหาได้ด้วย3.เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องนั้นๆและเลือกการเรียนรู้ให้เหมาะสมทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีศักยภาพการพัฒนาผู้สอนและผู้เรียนด้าน
ผู้สอนสอน ผู้เรียน1.ความรู้ ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาสาระ
เช่น การเลือกกิจกรรมเทคนิคและรูปแบบในการสอน ให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง
รู้จักแสวงหาความรู้จากแหล่งต่างๆที่มีอยู่ด้วยตนเอง2.ทักษะ
-ทักษะในการสื่อสาร-ทักษะในการตั้งคำถาม-การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ใหม่อย่างสม่ำเสมอ -การคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา-การเลือกกลวิธีในการเรียนรู้3.เจตคติ -มีจิตวิญญาณความเป็นครู-แสวงหาความรู้ใหม่อย่างสม่ำเสมอ
-ใฝ่รู้ใฝ่เรียน-กล้าแสดงออก-รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นการพัฒนารูปแบการสอนวิทยาศาสตร์-การดำเนินการศึกษาและพัฒนาแผนการเรียนการสอนโดยใช้วิธีบูรณาการองค์ความรู้ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
แล้วนำเสนอเป็นขั้นตอนของการจัดการเรียนการสอน-ในการจัดการเรียนการสอนต้องเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
มีการกระตุ้นความสนใจผู้เรียนเกิดความอยากรู้อยากเรียนมีกระบวนการคิดแก้ปัญหา
สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง โดยมี 5ขั้นตอน ดังนี้1.การสร้างองค์ความรู้2.การจัดและเก็บ3.การถ่ายทอดความรู้4.การนำความรู้ไปใช้5.การประเมิน
ข้อ 2.จงวิเคราะห์สภาพการจัดการเรียนการสอน
วิชาวิทยาศาสตร์ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
มีประเด็นใดบ้างที่ควรนำมาเป็นปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา-การเรียนการสอนที่เคยจำกัดเฉพาะในห้องเรียน
การที่นักเรียนเรียนเฉพาะในห้องเรียนไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์ในการเรียนรู้ที่แท้จริงเพราะปัจจุบันองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มีอยู่นอกห้องเรียนมากมาย
ดังนั้นการเรียนการสอนจะต้องขยายออกจากออกเรียนเพราะการเรียนเพียงในห้องไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์ที่แท้จริงค่ะ-การพัฒนาครู
ครูไม่ควรจะทำหน้าที่เป็นเพียงผู้สอนเท่านั้นแต่จะต้องเรียนไปพร้อมกับนักเรียนด้วย
เนื่องจากปัจจุบันโลกก้าวไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีก็ยิ่งไปได้เร็ว
ดังนั้นครูจะต้องตามความเปลี่ยนแปลงให้ทัน ซึ่งครูอาจจะต้องเรียนรู้ให้มากกว่านักเรียนเพื่อจะสามารถเรียนรู้ในโลกของความเป็นจริง-มีการปฏิรูปเรื่องของการวัดผล
จะต้องวัดผลจากผลการเรียนที่แท้จริงที่เด็กจะนำไปใช้ได้การวัดจะต้องวัดจากความคิด
รู้จักคิดเป็น แก้ปัญหาเป็น โดยจะต้องไม่เป็นเพียงการวัดผลจากการให้เลือกจากคำตอบ
ถูกหรือผิด แต่จะต้องเป็นการวัดผลอยู่บนฐานที่ทำให้นักเรียนสามารถใช้ความคิด
มีกระบวนการทางการคิดที่เป็นระบบ
ข้อ 3.หลักการ แนวคิด ทฤษฎี
ที่นำมาใช้การจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนปัจจุบันมีความเป็นไปได้เพียงใด
ในการจัดการศึกษา 3.0และเมื่อรัฐบาลประกาศจัดการศึกษา 4.0
จะมีความเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร
บทบาทของเทคโนโลยี
การสร้างองค์ความรู้จากเทคโนโลยี
เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปตามผู้เรียนบทบาทด้านการสอน
ครูและนักเรียนสร้างองค์ความรู้ร่วมกัน
ขยายองค์ความรู้ด้วยการให้วงจรผลสะท้อนกลับจากการสร้างนวัตกรรมเมื่อรัฐบาลประกาศยกระดับการจัดการศึกษาจาก
3.0 เป็น 4.0 มีความเป็นไปได้ที่จะนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน
เนื่องจากปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการศึกษาและยังสามารถนำความรู้ด้านเทคโนโลยีมาสร้างเป็นนวัตกรรมและทำให้เกิดเป็นองค์ความรู้ใหม่ๆการที่จะเปลี่ยนแปลงการจัดการศึกษาจาก
3.0 เป็น 4.0 ต้องมีการร่วมมือกันทั้งภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานอื่นๆ
และสิ่งที่สำคัญคือครูและผู้เรียนจะต้องร่วมมือกันในการขับเคลื่อนเพื่อให้การจัดการศึกษา
4.0 ประสบผลสำเร็จ
ข้อ 4.นักศึกษามีความคิดเห็นต่อการเรียน รายวิชา 1042404 การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์
อย่างไรบ้าง
มีความคาดหวังต่อการเรียนรู้รายวิชาดังกล่าวนี้เพื่อที่จะนำไปใช้ในอาชีพครูที่มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพครู(ตามที่คุรุสภากำหนด)โดยสรุปนักศึกษามีความคิดเห็นต่อการเรียน
รายวิชา 1042404 การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์
อย่างไรบ้างสำหรับในรายวิชาการพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์
มีความคิดเห็นว่าในการเรียนวิชานี้ทำให้ได้รับความรู้ความเข้าใจ
ในธรรมชาติของมนุษย์และการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้น
และสามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในด้านการศึกษา
ช่วยทำให้เราพัฒนาวิธีคิดทั้งความคิดที่เป็นเหตุเป็นผล คิดอย่างสร้างสรรค์
และมีทักษะในการค้นหาความรู้ใหม่ๆ
มีความคาดหวังที่จะได้เทคนิคการสอนและรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ต่างๆไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์มากที่สุดมีความคาดหวังต่อการเรียนรู้รายวิชาดังกล่าวนี้เพื่อที่จะนำไปใช้ในอาชีพครูที่มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพครู(ตามที่คุรุสภากำหนด)-
เพื่อพัฒนาแผนการสอนให้สามารถปฏิบัติได้เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่แท้จริงซึ่งตรงกับมาตรฐานวิชาชีครูมาตรฐานที่
6 ที่ว่าการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน- เพื่อพัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ
ซึ่งตรงกับมาตรฐานวิชาชีครูมาตรฐานที่ 6 ที่ว่าการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน-
สามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเน้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่ถาวร
ซึ่งตรงกับมาตรฐานวิชาชีครูมาตรฐานที่ 6 ที่ว่าการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน-
ทำให้รูปแบบการเรียนการสอนในรายวิชาวิทยาศาสตร์ให้บรรลุตามจุดมุ่งหมายของครูผู้สอน
ซึ่งตรงกับมาตรฐานวิชาชีครูมาตรฐานที่6 ที่ว่าการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน-
เพื่อที่จะทำให้มีการแสวงหาและการใช้ข้อมูลข่าวสาร
ในการพัฒนาและนำมาประยุกต์กับทางการศึกษา
สร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในทุกสถานการณ์
ซึ่งตรงกับมาตรฐานวิชาชีครูมาตรฐานที่ 8 ที่ว่า
นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา- สามารถรายงานผลการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนได้อย่างมีระบบ
ซึ่งตรงกับมาตรฐานวิชาชีครูมาตรฐานที่ 9ที่ว่า
การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ.
2556 คุรุสภาได้ออกข้อบังคับคุรุสภา
ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. 2556 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม
2556 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
โดยมีสาระสำคัญ
ดังนี้เปลี่ยนมาตรฐานวิชาชีพครู ด้านมาตรฐานความรู้ จาก 9 มาตรฐาน เป็น 11 มาตรฐาน
ดังนี้
1) ความเป็นครู
2)
ปรัชญาการศึกษา
3) ภาษาและวัฒนธรรม
4) จิตวิทยาสำหรับครู
5) หลักสูตร
6) การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน
7)
การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้
8) นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
9) การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้
10)
การประกันคุณภาพการศึกษา
11) คุณธรรม
จริยธรรมและจรรยาบรรณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น